“ไม่ใส่สารกันเสีย ไม่มีวัตถุเจือปน ธรรมชาติ 100 %”
เนื่องด้วยความปลอดภัยและคุณภาพ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในวงการอุตสาหกรรมอาหาร ทางทินกรสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพและปกป้อง Brand image ของท่านด้วยการทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นว่าสินค้าของท่านจะอยู่ได้จนสิ้นสุดวันหมดอายุ ช่วยให้ความสดใหม่คงอยู่โดยไม่ส่งผลต่อ กลิ่น รส และเนื้อสัมผัส
เราขอนำเสนอ Protective culture หรือจุลินทรีย์ที่ออกฤทธิ์เป็นสารกันเสียตามธรรมชาติ (natural preservative) ในผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้านมแปรรูป ซึ่งประกอบด้วยจุลินทรีย์หลักๆ 2 ชนิดได้แก่
- LPRA : เชื้อ Lactobacillus rhamnosus และ Lactobacillus plantarum ผสมกันด้วย อัตรา 1 : 1
- LRB : เชื้อ Lactobacilus rhamnosus 100%
รูปแสดงถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้และไม่ใช้ LRB ในวันที่ 42 หลังจากการผลิต (เก็บที่อุณหภูมิ 10 C)
Advantage of LPRA and LRB
- เป็นสารกันเสียที่มาจากธรรมชาติ (natural preservative)
- มีประสิทธิภาพในการจัดการเชื้อปนเปื้อนในชีสและโยเกิร์ต
- clean label เนื่องจากไม่จัดเป็นวัตถุเจือปนอาหารที่ต้องสำแดง
สิ่งที่คาดหวังได้หลังการใช้
- ลดและควบคุมการปนเปื้อนของยีสต์และราในสินค้า
- มีความเสถียรและไม่มีผลต่อรสชาติ
- ไม่ส่งผลต่อความหนืดและโครงสร้างของตัวสินค้า
- มีอายุหลังการผลิตที่ยาวนานขึ้น
- รสชาติมีความคงตัวมากขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง LPRA และ LRB
- LPRA เนื่องจากเป็นเชื้อสองชนิดผสมกันจึงมีขอบเขตการป้องกันที่มากขึ้น ทั่วไปนิยมใช้ในการผลิตชีส
- LRB ถึงเป็นเชื้อ Rhamnosus แต่อย่างเดียว มีลักษณะเด่นที่ส่งผลดีในเรื่อง การเพิ่มรสชาติให้หวาน และ เนื้อสัมผัส Soft และ creamy ขึ้นเล็กน้อย ทั่วไปนิยมใช้ในการผลิตโยเกิร์ต
“หลายๆคนเชื่อว่าการเกิดรูในชีสเป็นสิ่งดีทำให้ชีสสวยงามแต่ความจริงนั้น รูในชีสนั้นคือโพรงอากาศที่สร้างจากแบคทีเรียซึ่งมีผลให้อายุของชีสน้อยลง”
รูปแสดงถึงชีสที่บ่มโดย
A ชีสที่ใช้ LPRA บ่มเป็นระยะเวลา 90 วัน
B ชีสธรรมดาที่บ่มเป็นระยะเวลา 30 วัน
C ชีสธรรมดาที่บ่มเป็นระยะเวลา 60 วัน