Erythritol (อิริทริทอล) สารให้ความหวานที่ไม่กระทบต่อระดับอินซูลินในเลือด

   ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมาพบว่ามีการบริโภคน้ำตาลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งมีเหตุเกิดจากความชอบในรสหวานที่มากเกินไปของมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตามได้พิสูจน์แล้วว่าการบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไป ประกอบกับการไม่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออาจส่งผลให้เกิดโรคอ้วน และนำไปสู่โรคเรื้อรังอื่นๆ อีกมากมาย เช่น โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง เป็นต้น

   ดังนั้นจึงเกิดการลดพยายามลดการบริโภคน้ำตาล ขึ้นมาเป็นกระแสหลักโดยได้รับการส่งเสริมโดย อย ซึ่งออกกฏหมายเก็บภาษีน้ำตาลในเครื่องดื่ม และในอนาคตก็มีแนวโน้มที่จะขยายไปสู่อาหารอื่นๆ  ทั้งนี้ Erythritol (อิริทริทอล) ซึ่งเป็นวัตถุเจือปนอาหาร ที่มีจุดประสงค์เพื่อทดแทนความหวานจากน้ำตาล เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่กิน คีโต (Ketogenic diet) เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อระดับอินซูลิน และเป็นสารแทนน้ำตาลที่สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย

   เรามาทำความเข้าใจต่อ Erythritol (อิริทริทอล) กันให้มากขึ้น เพื่อสามารถใช้ได้ตรงกับอาหารที่ต้องการผลิต

1. Erythritol (อิริทริทอล) คืออะไร

    Erythritol คือวัตถุเจือปนอาหาร (food additive) ทำหน้าที่เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ (Sugar alcohol) ที่ได้จากการหมักน้ำตาลด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ น้ำตาล Erythritol เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่มีระดับหวานอยู่ที่ 60-70% ของน้ำตาลซูโครส ไม่ให้พลังงานหรือแคลอรี่ แต่ให้รสชาติใกล้เคียงกับการใช้น้ำตาลมากที่สุด เป็นผลึกสีขาว ละลายในน้ำได้ดี เราสามารถพบ Erythritol ได้ตามธรรมชาติ โดยพบในผลไม้ เช่น ลูกแพร์ เมล่อน และองุ่น อีกทั้งยังสามารถพบได้ในเห็ด และอาหารและเครื่องดื่มที่ได้จากการหมัก เช่น ซอสถั่วเหลือง ชีส และไวน์ ในปัจจุบันมีการใช้ Erythritol เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลในอาหารที่ต้องการลดแคลอรี่

2. ประโยชน์ของ Erythritol

   Erythritol คือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลแบบไม่ให้พลังงาน หรือแคลอรี่เท่ากับ 0 โดยน้ำตาล Erythritol จะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วในลำไส้เล็ก และถูกขับออกไปกับปัสสาวะโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง (ร่างกายเผาผลาญเป็นพลังงานไม่ได้) และส่วนที่ไม่ถูกดูดซึมเข้าร่างกาย แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ก็ย่อยเป็นพลังงานได้ยากมาก จากการรายงานการศึกษาแสดงให้เห็นว่า Erythritol จะไม่ถูกหมักในร่ายกายมนุษย์ จึงทำให้เกิดแก๊สที่ส่งผลให้เกิดความไม่สบายท้องน้อยกว่าน้ำตาลแอลกอฮอล์ตัวอื่นๆ อีกทั้งการศึกษาในชั้นคลินิกแสดงให้เห็นว่า Erythritol ไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและระดับของอินซูลิน ซึ่งได้มีการใช้ Erythritol กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน สรุปได้ว่ามีความปลอดภัยในการใช้ Erythritol แทนน้ำตาลซูโครสในสูตรอาหารเฉพาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน นอกจากนี้ Erythritol ก็เหมือนน้ำตาลแอลกอฮอล์ตัวอื่นๆ ซึ่งต้านต่อการถูกแมททาบอลิซึมโดยแบคทีเรียภายในช่องปากที่ย่อยสลายนน้ำตาลแลแป้งไปเป็นกรด อาจนำไปสู่การสูญเสียสารเคลือบฟันและทำให้เกิดฟันผุ ดังนั้น Erythritol จึงเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ดีต่อสุขอนามัยของฟัน และเป็นที่ยอมรับโดยทันตแพทยสมาคมของอเมริกา 

3. คุณสมบัติในการใช้ Erythritol

• มีรสชาติคล้ายน้ำตาลซูโครส
• รักษาคุณสมบัติที่สำคัญ เช่น texture และ mouthfeel
• ช่วยลดแคลอรี่ในผลิตภัณฑ์ สามารถลดแคอลรี่ได้ถึง 50%
• สามารถถูกใช้ร่วมกับสารให้ความหวานตัวอื่น
• ไม่ทำให้ฟันผุ เนื่องจากจุลินทรีย์ไม่สามารถย่อย Erythritol ได้เหมือนน้ำตาลซูโครส ส่งผลให้เกิดการสร้างกรดที่เป็นสาเหตุทำให้ฟันผุได้

4. การใช้ Erythritol ในอาหารต่างๆ

   Erythritol คือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลธรรมชาติที่ให้รสหวานเหมือนน้ำตาล แต่ไม่มีแคลอรี่ ไม่มี aftertaste และไม่มีส่วนผสมที่เป็นสารสังเคราะห์ โดยเหตุผลต่างๆ ที่กล่าวมา ทำให้ Erythritol ถูกนำมาใช้ในอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ อาทิเช่น เครื่องดื่ม ช็อกโกแลต ไอศกรีม โยเกิร์ต เบเกอรี่ ลูกกวาดและหมากฝรั่ง ซอสและเครื่องปรุงรส รวมทั้งใช้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล เป็นต้น

5. ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ Erythritol

   สามารถทนความร้อนได้ดี จึงมักถูกใช้ในอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อใช้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล อีกทั้งเพื่อเป็นการช่วยเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัส เช่น Pepsi SoBe lifewater, Coca Cola Odwalla^®, Danon yoghurt YoCrunch^® เป็นต้น

แหล่งอ้างอิง:

http://www.blb-cn.com