ในสถานการณ์ปัจจุบันเราต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วย อ่อนแอ ไม่สบาย หรือเสียชีวิต โดยเฉพาะช่วงเวลาหลายปีมานี้ที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งเป็นโรคที่แพร่ระบาดอย่างหนักทั่วโลก จากการระบาดของโรคนี้ส่งผลให้การขับเคลื่อนของระบบของเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว เกิดการล้มป่วย มีผู้ติดเชื้อสะสม และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ผู้คนจึงได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นทำความสะอาดมือด้วยเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ รวมทั้งการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อลดความเสี่ยงและโอกาสจากการติดเชื้อ COVID-19 หรือต้านเชื้อไวรัสอื่นๆ จึงเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการเพื่อสร้างกำแพงด่านแรกในการป้องกันอาการป่วย หรือช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้
หลายคนคงสงสัยว่าแล้วเราต้องเสริมภูมิคุ้มกันด้วยสารอาหารตัวไหนถึงจะตอบโจทย์กับความต้องการนี้ บริษัท ทินกร เคมีคอล แอนด์ ซัพพลาย จำกัด ขอแนะนำสารสกัดจากพืช วิตามิน และแร่ธาตุ ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น อาทิเช่น
อึ้งคี้หรือปักคี้ (Astragalus)
Astragalus คือพืชไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง สามารถพบได้ในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน มีการนำ Astragalus มาใช้เป็นยาเป็นเวลานานมากกว่า 2,000 ปี
ในปัจจุบันได้มีการนำสารสกัดจาก Astragalus (Astragalus extract) มาช่วยปรับ และ เพิ่มความแข็งแกร่งของระบบภูมิคุ้มกัน โดยช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มีความต้านต่อเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเพิ่มมากขึ้น ช่วยไม่ให้เป็นหวัดบ่อย ช่วยปกป้องตับและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย ช่วยปรับการไหลเวียนของโลหิต และบำรุงร่างกาย หากสารสกัดจาก Astragalus ทำงานร่วมสังกะสี (Zinc) วิตามินเอ (Vitamin A) และวิตามินซี (Vitamin C) จะได้ผลลัพธ์ดีที่สุด มีการนำสารสกัดจาก Astragalus ไปใช้อย่างแพร่หลายในด้านยาและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน อีกทั้งมีการนำไปใช้ในด้านเครื่องสำอางค์ในการบำรุงและรักษาผิวพรรณ
กระชายขาว (Finger root)
กระชายขาว คือพืชสมุนไพรที่จัดอยู่ในวงศ์ขิงข่า มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเราจะคุ้นเคยกันดีว่ากระชายขาวนั้นมีประโยชน์มากมาย สามารถนำไปใช้ทั้งในอาหาร ปรุงได้หลากหลายเมนูทั้งผัดและแกง ให้กลิ่นหอมฉุนและรสชาติเผ็ดร้อน และตามตำรายาไทยนั้น ได้มีการนำกระชายขาวมาช่วยบรรเทาอาการต่างๆ เช่น ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย แก้อาการวิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก รักษาโรคในปาก เช่น ปากแห้ง ปากเปื่อย ปากเป็นแผล ใช้บำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด ช่วยขับระดูขาว ขับปัสสาวะ เป็นต้น
ในปัจจุบันมีรายงานศึกษาวิจัยพบว่าสารสกัดจากกระชายขาว (Finger root extract) ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา จากศึกษาวิจัยของศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีวิวิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) (TCELS) ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่ามีสารสำคัญอยู่ 2 ชนิด คือ บอเซนเบจิน เอ (Boesanbergin A) และพินอสตรอบิน (Pinostrobin) จากกระชายขาว มีฤทธิ์ในการับยั้งการเจริญเติบโตเชื้อ COVID-19 ได้ในระดับหลอดทดลอง สำหรับในสัตว์ทดลองและคนต้องรอขยายผลการทดสอบต่อไป
อะเซโรลา เชอรี่ (Acerola cherry)
อะเซโรลา เชอรี่ คือผลไม้ป่าชนิดหนึ่ง พบมากในแถบทะเลแคริบเบียน ทวีปอเมริกาใต้ เช่น บราซิล จาไมก้า เม็กซิโก คิวบา อะเซโรลา เชอรี่มีลักษณะคล้ายลูกเชอรี่ มีสีส้มแดง รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ อะเซโรลา เชอรี่ ถือว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์มากมายอันเป็นผลจากสารสำคัญที่อยู่ในผลอะเซโรลา เชอรี่ คือ วิตามินซี (Vitamin C) ซึ่งมีปริมาณสูงกว่าส้ม 30-80 เท่า และมีสารอาหารอื่นๆ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ และไบโอฟลาโวนอยด์ เป็นต้น
ทุกวันนี้เราก็เริ่มรู้จักสารสกัดจากอะเซโรลา เชอรี่ (Acerola cherry extract) กันมากขึ้นแล้ว เราต่างเห็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่วางจำหน่ายกันทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า ร้านขายยา หรือแม้กระทั่งมีการจัดจำหน่ายอย่างแพร่หลายผ่านทางช่องทางออนไลน์ เนื่องด้วยคุณประโยชน์ต่างๆ มากมาย ซึ่งสารสกัดจากอะเซโรลา เชอรี่ ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยการกระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นตัวป้องกันเชื้อโรค ช่วยซ่อมแซมและเนื้อเยื่อจากการเจ็บป่วย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้และโรคหวัด มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระจึงสามารถป้องกันเซลล์จากอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณขาว กระจ่างใส ต่อต้านริ้วรอย และช่วยในการปรับปรุงงการเผาผลาญ ด้วยคุณประโยชน์ที่กล่าวมานี้จึงส่งผลให้ความต้องการของสารสกัดจากอะเซโรลา เชอรี่ เพิ่มสูงขึ้น
ขิง (Ginger)
ขิง คือสมุนไพรชนิดหนึ่ง เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ขิง พบมากในประเทศอินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น ขิงมีลักษณะเป็นเหง้าเติบโตใต้ดิน มีลักษณะเป็นข้อๆ สีขาวหรือสีเหลืองอ่อน ทุกส่วนของขิงไม่ว่าจะเป็นเหง้า ราก ต้น แก้น ดอก ใบ และผล สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น มีการใช้มายาวนานหลายพันปี มีความเชื่อกันมานานแล้วว่าขิงคืออายุวัฒนะที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง ขิงอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย มีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว มีรสชาติเผ็ดร้อน นิยมนำไปใช้ในอาหาร เครื่องดื่ม และยาช่วยในการรักษาโรคได้ดี เช่น เป็นยาบำรุงกำลัง ช่วยขับลม ลดอาการจุกเสียด แก้ท้องอืด ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ ช่วยรักษาอาการร้อนใน ขับล้างสารพิษ ไขมันและคอเลสเตอรอล และช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
มีงานวิจัยพบว่า สารสกัดจากขิง (Ginger Extract) ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส จากการวิจัยของ TCELS ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าสารสกัดจากขิงมีฤทธิ์ในการับยั้งการเจริญเติบโตเชื้อ COVID-19 ได้ในระดับหลอดทดลอง ถึงแม้ว่าผลการยับยั้ง COVID-19 จะน้อยกว่าสารสกัดจากกระชายขาว แต่สารสกัดจากขิงก็ยังให้สรรพคุณที่มีประโยชน์มากมาย เช่นต้านอนมูลอิสระและต้านการอักเสบ ทำหน้าที่ในการยับยั้งการกลายพันธุ์ของเซลล์มะเร็งได้หลายชนิดในการวิจัยในระดับหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น เป็นต้น
นอกจากนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักวิตามินซี เพราะเราทุกคนคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก โดยเด็กมักจะรับประทานวิตามินซี เพื่อป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน โดยทั่วไปนิยมนำวิตามินซีไปใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมาย เช่น ลูกอม วิตามินซีในรูปแบบเม็ดและแคปซูล เครื่องดื่มต่างๆ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฯลฯ แล้ววิตามินซีมีสรรพคุณอะไรอีกที่ทำให้มีการนำไปใช้อย่างมากมายในหลากหลายสินค้า
วิตามินซี (Vitamin C)
วิตามินซี คือ วิตามินชนิดหนึ่งที่ละลายในน้ำได้ดี พบได้ในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียยว มะเขือเทศ แคนตาลูป เป็นต้น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้หลากหลายชนิด ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยในการป้องกันและรักษาโรคหวัด โดยช่วยกระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดขาว เสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาวและช่วยกระบวนการทำลายเชื้อโรคทั้งไวรัสและแบคทีเรีย อีกทั้งวิตามินซีมีบทบาทสำคัญใสการสร้างคอลลาเจน สำคัญต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ผนังหลอดเลือด กระดูก และฟัน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยาที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และช่วยป้องกันมะเร็งได้หลากหลายชนิด
และแร่ธาตุอีกตัวหนึ่งที่บทบาทสำคัญต่อร่างกาย ซึ่งเราต้องการเนื่องจากไม่สามารถผลิตได้เอง ต้องได้รับจากการรับประทานเท่านั้น คือ สังกะสี (Zinc)
สังกะสี (Zinc)
สังกะสี คือ แร่ธาตุตัวหนึ่งที่สามารถพบได้ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ตับ หอยนางรม เมล็ดฟักทอง ไข่ เป็นต้น สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่ทำหน้าที่ควบคุมกระบวนการต่างๆ ภายในร่างกายให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยควบคุมการทำงานของเอนไซม์และเซลล์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยช่วยให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปริมาณไวรัสในร่างกาย ช่วยลดความรุนแรงของโรคหวัดและลดเวลาเจ็บป่วย หากรับประทาน Zinc ร่วมกับ Vitamin C จะเป็นการช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายมากขึ้น นอกจากนี้ Zinc ยังมีบทบาทสำคัญต่อระบบสืบพันธุ์ ป้องกันปัญหาต่อมลูกหมาก มีความสำคัญต่อการสร้างดีเอ็นเอ ช่วยให้แผลให้หายเร็ว กำจัดจุดขาวบนเล็บมือ รวมทั้งช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตได้อีกด้วย จากคุณประโยชน์เหล่านี้จึงส่งผลให้ Zinc ถูกใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ มากมายในรูปแบบวิตามินรวมและแร่ธาตุรวม หรืออาจหาซื้อได้ในรูปแบบตัวเดี่ยวๆ เช่น Zinc citrate, Zinc gluconate, Zinc picolinate และ Zinc sulfate ในขนาด 15-50 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตามควรปริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะหากรับประทานมากเกิน 150 มิลลิกรัมต่อวัน อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่ดีได้
แหล่งข้อมูล
มินเดลล์ เอิร์ล. วิตามินไบเบิล / เอิร์ล มินเดลล์ : เขียน; พ.ญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล:แปล จาก The new vitamin bible.
พิมพ์ครั้งที่ 21. กรุงเทพฯ. อมรินทร์เฮลท์. อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง. 2563
https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2157156
https://mthai.com/health/222934.html